12/14/2553

ขนมโตเกียว

ขนมโตเกียว

ขนมโตเกียวเป็นขนมที่ลงทุนน้อย คนทั่วๆไปนิยมรับประทาน ขายได้กำไรวันต่อวัน
ถ้าทำไม่เป็น ก็ฝึกหัดทำได้ไม่ยาก ขนมโตเกียวนั้น ซื้อง่ายขายคล่อง เด็กยิ่งชอบรับประทาน น่าทำเป็นอาชีพเสริม หารายได้เข้ากระเป๋า

แป้งขนมโตเกียว
ส่วนผสม
แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง
ผงฟู 2 ช้อนชา
โซดาไบคาร์บอเนต 1 ช้อนชา
ไข่ไก่ 5 ฟอง
น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1 ถ้วยตวง
เตาขนมโตเกียว
วิธีทำขนมโตเกียว
1.ร่อนแป้ง ผงฟู รวมกัน ตีไข่ให้ขึ้น ค่อยๆ ใส่น้ำตาลตีให้ฟู จากนั้นใส่แป้งที่ร่อนแล้ว สลับกับน้ำเปล่า คนอย่าให้เป็นลูก
2.ใช้กระทะแบน(กระทะทำขนมโตเกียว)ทาน้ำมันบางๆ ตั้งไฟอ่อนๆ รอกระทะร้อนใช้ช้อนตักแป้งละเลงเป็นวงกลม พอแป้งสุกใส่ไส้ (ไส้ที่ใส่มี ไส้กรอก ไส้ฮอตดอก ไส้เผือก ไส้ครีมฯลฯ) ม้วนกดหัวท้าย วางเรียงในถาด ขายได้เลย

ไส้ขนมโตเกียวแบบง่าย

1.ไส้เผือก
ไส้เผือกนึ่งสุกบด 2 ถ้วยตวง หรือถั่วเหลืองต้มสุกบด 2 ถ้วยตวง
กะทิ 1 ถ้วยตวง
น้ำตาล 2 ถ้วยตวง
วีธีทำ
ตั้งกระทะ กวนเผือกผสมกะทิ น้ำตาล ใส่ในกระทะคอยกวนจนล่อนไม่ติดกระทะ
ตักใส่ภาชนะ สำหรับตักเป็นไส้ขนมโตเกียว

ขนมโตเกียว
2.ไส้ครีม

น้ำตาลทราย 2 ถ้วยตวง
แป้งสาลี 1 ถ้วยตวง
นมสด 2 ถ้วยตวง
น้ำเปล่า 1ถ้วยตวง
เนย 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 4 ฟอง

วิธีทำ
นำน้ำตาล แป้งสาลีรวมกัน ต่อยไข่ใส่อ่างใช้ส้อมตีให้แตก ใส่ไข่ในแป้ง กวนให้เข้ากัน ยกขึ้นตั้งไฟ ใส่เนยคนจนสุกยกตั้งทิ้งไว้ให้เย็น ตักใส่ภาชนะ เก้บไว้ใช้เป็นไส้ขนมโตเกียว

12/05/2553

ขายข้าวเหนียวมูนหน้าต่างๆ

ข้าวเหนียวมูน


ข้าวเหนียวมูน เป็นอาหารที่อร่อย ขายง่าย คนทั่วไปนิยมบริโภคกัน สามารถทำไปวางขายได้ตามตลาดนัด หรือแหล่งชุมชน ข้าวเหนียวมูนหน้าต่างๆ ที่นิยมรับประทานและขายดีมีหลายหน้า ได้แก่


1.ข้าวเหนียวมูนหน้าปลาแห้ง
ส่วนผสม
ปลาป่น ½ กิโลกรัม
น้ำมันพืช
น้ำตาลทราย 4-5 ขีด
หอมเจียว 1-2 ขีด (สำหรับปลาป่น ½ กก.)

วิธีทำ
ใส่นำมันพืชพอประมาณลงในกระทะ พอนำมันเดือดใส่ปลาป่นลงผัดให้เหลืองโส่น้ำตาลทราย ผัดส่วนผสมด้วยไฟอ่อนๆ คลุกเคล้าพอให้เข้ากัน สังเกตดูจะเห็นน้ำตาลทรายเป็นเม็ดๆ (อย่าผัดจนน้ำตาลทรายละลาย)ใส่หอมเจียวคลุกให้เข้ากัน ตักใส่ภาชนะ โรยหน้าด้วยหอมเจียวอีกครั้ง

ข้อแนะนำ
*หน้าปลาแห้งที่ทำเสร็จแล้ว สามารถเก็บไว้ได้นาน หากขายไม่หมด ก็ไม่ต้องเก็บไว้โนตู้เย็น สามารถเก็บใส่ภาชนะปิดฝาให้สนิท วางไว้อกตู้เย็นได้
* ปลาป่นส่วนใหญ่จะทำมาจากปลาช่อน ให้ชื้อสำเร็จรูปจากตลาดราคาประมาณ 80 บาท (1/2 กิโลกรัม) ให้บอกแม่ค้าว่าจะเอาไปทำหน้าปลาแห้ง
* การเตรียมหน้าปลาแห้งสามารถผัดปลาป่นกับน้ำตาลทรายไว้ได้ ยังไม่ต้องใส่หอมเจียว ก็สามารถเก็บไว้ได้นาน
* หน้าปลาแห้ง ยิ่งใส่หอมเจียวมากยิ่งอร่อย

ข้าวเหนียวมูน
2.ข้าวเหนียวมูนหน้ากุ้ง
ส่วนผสม
กุ้งสดสับ 300 กรัม
หัวกะทิล้วน ประมาณ ½ กก.
น้ำตาลทราย 4 ขีด
เกลือป่น ½ ช้อนโต๊ะ
พริกไทย 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียม ½ ช้อนโต๊ะ
สีส้มแสด

วิธีทำ
เทหัวกะทิลงในภาชนะ ตั้งไฟให้เดือด ใส่น้ำตาลทราย เกลือป่น ค่อยๆใส่ทีละน้อย ถ้าไม่เค็มเติม พริกไทย กระเทียม รากผักชี ใส่ลงไปผัดรวมกับหัวกะทิ ใส่สีผสมอาหารสีส้มแสดของ 1 ฝา ค่อยๆ ใส่ เพราะสามารถใส่เพิ่มสีได้ คนส่วนผสมให้เข้ากัน ใส่กุ้งสับ ใส่มะพร้าวทึนทึก ผัดต่อจนส่วนผสมแห้ง ตักใส่ภาชนะเก็บไว้ โรยหน้าด้วยใบมะกรูดหั่นฝอยหลังจากกุ้งเย็นแล้ว

ข้อแนะนำ
* การทำหน้ากุ้ง ให้ใช้แต่หัวกะทิล้วนๆ เวลารับประทานหน้ากุ้งจะนุ่มและหอม
* หากใช้มะพร้าวขูดด้วยเครื่อง เวลาเอามาทำหน้ากุ้งจะไม่ค่อยอร่อย สำหรับสูตรที่ครูพะเยาว์ทำจะใช้การขูดมะพร้าวเป็นเส้นด้วยมือ แล้วนำมาสับอีกครั้งให้เป็นท่อนๆ


3.ข้าวเหนียวถั่วดำ
ข้าวเหนียวถั่วดำ เป็นขนมหวานที่มักทำขายคู่กับข้าวเหนียวมูน เพราะเป็นของที่รับประทานคู่กันได้และอร่อยมาก

ส่วนผสม
หัวกะทิดำ 3 กก.
หางกะทิ 2 กก.
ถั่วดำดิบ 1 ½ กก. (แช่น้ำ 2-3 ชั่วโมง)
น้ำตาลปี๊บ 1 กก.
เกลือป่น 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
เริ่มจากการเตรียมน้ำกะทิ ให้นำหางกะทิ เกลือป่น น้ำตาลปี๊บ ใส่ภาชนะ ตั้งไฟให้เดือด โดย
ใช้ไฟปานกลาง พอเดือดดีแล้ว ใส่หัวกะทิลงไป ไม่ ต้องกรองหัวกะทิ เพื่อให้น้ำกะทิข้น ไม่ใสเหมือนที่ขายทั่วไป จากนั้นเพิ่มระดับไฟขึ้นอีกนิด

คนให้กะทิเนียน ถ้าไม่คนกะทิจะจับเป็นลูกพอเดือด แต่ไม่ถึงกับเดือดพล่านให้ยกลง
เตรียมถั่วดำไปพร้อมๆกัน ในระหว่างนี้ให้ ต้มถั่วดำ นำถั่วดำที่แช่น้ำไว้แล้วประมาณ 2-3 ชั่วโมง มาล้างน้ำให้สะอาด ผึ่งให้แห้ง ตั้งไฟ ต้มให้สุก (ให้ทำพร้อมกับการเตรียมน้ำกะทิ) คนถั่วดำด้วยกระชอนใหญ่ ถ้ามีฟอง ให้ตักทิ้ง

นำถั่วดำที่ต้มแล้วใส่ลงในส่วนผสมน้ำกะทิที่เตรียมไว้
คนให้เข้ากัน พอเดือดปุดๆ ยกลง

ข้อคิดในการขายขนม
ข้อคิดในการขายขนม ขอให้ฝึกทำขนมที่จะขายจนรสชาติลงตัว อาจจะใช้เวลาเวลาทำ 2- 3 ครั้ง ก็พอจะขายได้แล้ว ระหว่างทำขอให้ หมั่นสังเกตจดจำเคล็ดลับต่างๆ ระหว่างขายขอให้เปิดใจที่จะรับฟังคำแนะนำจากลูกค้า คอยเอาใจใส่ลูกค้า พูดดุยกันเอง

ในการขายขนมจะต้องหมุนเวียนเปลี่ยนไปบ้างตามฤดูกาลต่างๆ แต่ก็ต้องมีขนมยืนพื้นที่เป็นจุดขายซึ่งจะทำให้ลูกค้าจดจำได้ กรณีของข้าวเหนียวมะม่วง หน้าไหนถ้าไม่มีมะม่วงก็ให้เน้นขายหน้าอืนๆ ซึ่งก็ขายดีเช่นกัน แต่รายได้อาจจะไม่สูงเท่า

“ขยัน ประหยัด ชือสัตย์ อดทน”

การตั้งราคาขายข้าวเหนียวมูน
-ข้าวเหนียวมูน ราคากิโลกรัมละ 70 -80 บาท
-ข้าวเหนียวหน้าต่างๆ ห่อละ 10 บาท

11/17/2553

ขายโจ๊ก โจ๊กหมู

โจ๊ก
โจ๊กเป็นอาหารที่อร่อย อิ่มสบายท้อง ย่อยง่ายเป็นได้ทั้งอาหารเช้าหรือมื้อไหนๆก็กินดี
โจ๊กที่ดีจะต้องไม่เหม็นคาว มีรสหวานกลมกล่อม มีกลิ่นหอมพริก
ไทย มีรสเผ็ดของขิงซอย หอมกระเทียมเจียวเหลืองกรอบ หมูสดสับ สุก ต้มไสั
ตับ ปอด หัวใจ เซ่งจี้ ลวก จะใส่ไข่ไก่ ไข่ขาวสุกเป็นวุ้น ไข่แดงสุก หรือเป็นไข่ต้ม
ตามชอบ บางคนไม่ชอบโจ๊กใส่ไข่ ใส่น้ำปลาดี น้ำสัมพริกดองเผ็ดเล็กน้อย วันนี้ขอเสนออาชีพขายโจ๊กหมู เพราะเป็นอาชีพที่น่าสนใจมากๆทำรายได้ดีทีเดียว ถ้ามีทุนรอนสามารถเปิดเป้นร้านได้เลย

โจ๊กนั้นใช้ปลายข้าวเจ้าซาวน้ำ ใส่น้ำมาก เหมือนต้มข้าวต้ม ตามส่วนที่ต้องการ
ถ้าเหลือเก็บใส่ตู้เย็นเก็บเอาไว้เวลาจะทำนำออกมาเติมน้ำต้มให้เดือดก็ใช้ได้ ถ้า
ต้องการโจ๊กอย่างรวดเร็วไม่ได้ต้มปลายข้าวเอาไว้ ก็ใช้ข้าวสุกในหม้อ ใส่โถปั่น
ให้น้ำพอท่วม ปุ่มกดจะได้ข้าวละเอียดเละๆ ใส่หม้อต้ม เติมน้ำเล็กน้อยจะเป็น
ข้าวโจ๊กอย่างดี

น้ำซุปโจ๊ก
น้ำซุปเป้นปัจจัยสำคัญในการทำโจ๊กให้อร่อย ให้ใช้น้ำต้มกระดูกหมู หรือน้ำต้มซี่โครงไก่ ใส่รากผักชี เมล็ดพริกไทย เกลือ เคี่ยวจนกระทั่งได้น้ำซุปหวาน
หมูเนื้อแดงหั่น แล้วสับละเอียด หรือใส่โถปั่นบดจนละเอียด ใส่พริกไทยป่น เกลือปน ผสมนวดให้เข้ากันเป็นก้อนๆ ตับหมู ไสัหมู หมูเนื้อแดงต้มสุกหั่น เป็นชิ้นพอคำ พวกหัวใจ เซ่งจี๊ ลวกพอสุก ๆขิงอ่อนหั่นฝอย ซึ่งขาดไม่ได้ บางคนชอบ บางคนไม่ชอบกระเทียมเจียว กระเทียมทุบแล้วสับละเอียด เคี่ยวให้เหลืองกรอบ ถ้ามีกากหมูหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ ๆ เจียวจนกรอบใฟรวมไปด้วย สำหรับพวกที่ชอบกรอบๆ กรุบๆ ก็อร่อยเหมือนกัน ข ถ้าไม่ชอบก็เพียงเจียวกระเทียมที่ทุบแล้วสับเจียวกับน้ำมันพืช
พริกไทย ถ้าป่นได้เองจะอร่อยกว่าพริกไทยที่บรรจุกระป็อง ถ้าใช้พริก ไทยบรรจุกระป๋อง ก็ควรเลือกพริกไทยชนิดดีใหม่ ไม่ใช่แป้งผสมพริกไทย
ต้นหอม ผักชีหั่น จะต้องเป็นต้นหอมผักชีที่สด ไม่มีใบแห้ง
น้ำปลา ควรใช้น้ำปลาชนิดดีไม่ใช้น้ำปลาที่ได้จากการต้มจากกระดูกหมูผสมสี

น้ำส้มพริกดอง ใฟน้ำสัมสายซูชนิดดี (ไม่ใช่น้ำสัมที่ทำจากกรด) ใช้พริก
ชี้ฟ้าสดหั่น หรือใช้พริกขี้หนูจะช่วยชูรสโจ๊ก
ซอสปรุงรสช่วยเพิ่มรสอร่อยไข่ไก่ควรเป็นไข่ไก่สด ไม่เก่าเก็บ จะลวกเอาไว้ก่อน หรือต่อยไข่ใส่ขณะทำเสันหมี่ทอดกรอบ ใช้เสันหมี่ที่ไม่แช่น้ำ ทอดกรอบ หรืออาจใช้ปาท่องโก๋ตัวเล็กๆ ทอดกรอบก็ได้


โจ๊กหมู
ส่วนผสม
ปลายข้าวหอมมะลิ 1 ถ้วย
เนื้อหมูติดมันบด 300 กรัม,
ตับหมู 200 กรัม,
ไส้อ่อนหมู 200 กรัม,
ไข่เค็ม 2 ฟองหรือไข่ต้ม
ไข่ไก่สด
ขิงหั่นฝอย 1/4 ถ้วย,
ต้นหอมผักชีหั่นฝอย 100 กรัม,
แป้งข้าวโพด 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมบุบสักละเอียด 1 ช้อนโต๊ะ,
ซีอิ๊วขาว 1/2 ถ้วย,
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปกระดูกหมู 4 ถ้วย
หมี่กรอบ

วิธีทำโจ๊กหมู
1.นำหมูติดมันมาบดใส่ชามปรุงรสด้วย ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว แป้งข้าวโพดลง กระเทียมสับ น้ำมันหอย ขากนั้นนวดให้เข้ากัน พักไว้ก่อน
2.นำตับหมูหั่นเป็นชิ้นๆ นำไปลวกในน้ำเดือดให้สุกตักขึ้นพักไว้ ไส้หมูนำไปต้มจนสุกเปื่อย หั่นเป็นชิ้นๆพอคำ พักไว้
3.นำปลายข้าวหอมมะลิมาซาวน้ำให้สะอาด ยกขึ้นใส่น้ำตั้งไฟจนสุกข้นเละเป็นโจ๊ก
4.พอข้าวสุกได้ที่ เติมน้ำซุปลงไปในโจ๊ก คนๆเคี่ยวต่ออีกสักพัก
5.ใส่หมูสับที่ผสมเอาไว้ เป็นก้อนกลมเท่าหัวแม่มือ ใส่ลงไป
6.เวลาตักขาย ตักโจ๊กหมูใส่ชาม โรยหน้าด้วยขิงหั่นฝอย โรยหน้าด้วยพริกไทยป่น และต้นหอมผักชี เสิร์ฟพร้อมเครื่องปรุงรส หากชอบทานข้นๆให้ใส่หมี่กรอบเพิ่ม
รับประทานกับน้ำสัมพริกดอง ถ้าไม่เค็มเติมซอสถ้าชอบเผ็ดใส่พริกป่น ถ้าใช้น้ำซุปต้มกระดูกหมู หรือโครงไก่สดๆ แล้วไม่จำเป็นต้องใช้ผงชูรส
หรือ ซุป ก้อนถ้าไม่มีน้ำซุป ก็จำเป็นต้องใช้ซุปก้อน ทำรับประทานในครอบครัว หรือทำขายก็วิธีเดียวกัน

ถ้าชอบไข่ต่อยไส่พอสุก ยกหม้อเทใส่ชาม

9/17/2553

ขายยำมะม่วง


อาชีพขายยำมะม่วงหรือยำผลไม้รวมหลายๆชนิด ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางทำกิน การขายยำมะม่วงสามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้อย่างดี

คนทั่วไปชอบอาหารยำที่รสชาติจัดจ้าน แซ่บถึงใจ ไม่น่าเบี่อ และเป็นทางเลือกหนึ่งที่เหมาะอับคนรักสุขภาพ โดยเฉพาะคนที่กลัวอ้วน เมนูนี้จึงน่าสนใจ ที่สำคัญคือ หยิบเอาวัตถุดิบทีมีอยู่แล้วมาประยุกต์เป็นเมนูใหม่เลือกวัตถดิบที่มีประโยชน์ ความสด สะอาด และปลอดสารพิษ และน้ำยำที่ใช้เป็นน้ำยำประยุกต์ที่คิดดัดแปลงจนลงตัวพอดี
นี่เป็นอีกหนึ่งอาชีพสำหรับใครที่กำลังมองหาอาชีพเพื่อขายของตลาดนัด ทดลองทำขายดูได้เพื่อเพิ่มรายได้ในกระเป๋าของคุณ

อุปกรณ์เครื่องมือก็ไม่ได้มากมายอะไร
รถเข็น ตู้โชว์ มีด หม้อ เขียง เครื่องหั่น กะละมัง ถาด
คีมคีบของ กระทะ ตะหลิว ทัพพี หม้อสแตนเลส ฯลฯ

สูตรยำมะม่วง
ยำมะม่วงมีหลายสูตร จะยกตัวอย่างให้ทดลองทำตามกันดู แล้วทดลองขายว่า สูตรมะม่วงยำสูตรไหนที่ครองใจลูกค้า

ยำมะม่วงสูตร 1
ส่วนผสม
มะม่วง
กุ้งแห้งป่น
หนังหมู
พริกขี้หนู
หอมแดง
กระเทียม
ถั่วลิสงป่น
น้ำตาบปีบ
น้ำปลา

วิธีทำยำมะม่วง
ปอกเปลือกมะม่วงดิบ เอามาสับแบบเดียวกับคนอีสานสับมะละกอ ใส่ชามโคมไว้ เอากุ้งแห้งป่นใส่หนังหมูต้มให้นุ่มซอยใส่ลงไป พริกขี้หนูสับ หัวหอม กระเทียมซอย ใส่ลงไป ถั่วลิสงป่น เคล้าให้เข้ากัน ใส่น้ำตาลปี๊บเล็ก และน้ำปลา คลุกเคล้าให้เข้ากัน

ยำมะม่วงสูตร 2
ส่วนผสม
มะม่วงเปรี้ยวดิบ 1 ลูก
ปลาหมึกแห้งฉีกฝอย 1 ถ้วย
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด 1 ถ้วย
กุ้งแห้ง 3 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย 5 หัว

เครื่องปรุงรสน้ำยำ
พริกขี้หนู หรือพริกป่น, น้ำตาล, น้ำปลา ตามชอบใจ
ผักเครื่องเคียงตามใจชอบ อาทิ แครอทสับ, กะหล่ำปลีซอย, ผักกาดหอม, ผักชี

วิธีทำ
1.นำมะม่วงเปรี้ยวดิบ มาล้างปอกเปลือกแล้วสับเป็นเส้นๆ
2.เตรียมน้ำยำโดยใส่น้ำปลา น้ำตาล พริก ให้เข้ากันแล้วชิมรสตามชอบใจ
3.นำมะม่วงเปรี้ยวดิบสับ ปลาหมึกหั่น กุ้งแห้ง และเม็ดมะม่วงหิมพานต์ทอด ใส่ถ้วยคลุกเคล้ากับน้ำปรุงให้เข้ากัน

ยำมะม่วงสูตร 3
ส่วนผสม
มะม่วงดิบ 5 ผล
เนื้อหมู 100 กรัม
กุ้งแห้งป่น 3 ช้อนโต๊ะ
มะพร้าวคั่ว 1/4 ถ้วย
ถั่วลิสงคั่ว โขลกหยาบๆ1/4 ถ้วย
กระเทียมเจียว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1/4 ถ้วย
น้ำตาลปี๊ป 1/4 ถ้วย
พริกแห้งคั่วป่น 1 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1.ปอกมะม่วง ล้างแล้วสับให้เป็นเส้นๆ คลุกเคล้ากับน้ำเกลือ (ใช้น้ำสุก 2 ถ้วย+ เกลือ1 ช้อนโต๊ะ) ให้มะม่วงคลายรสเปรี้ยวลงบ้าง บีบน้ำออกแล้วพักไว้
2.นึ่งหรือลวกเนื้อหมูให้สุก หั่นชิ้นเล็กๆยาวๆ
3.ผสมยำ โดยใส่น้ำปลา น้ำตาลปี๊ป รวมกันตั้งไฟกรอง ปล่อยให้เย็น
4.คลุกส่วนผสมต่างๆได้แก่ มะม่วง เนื้อหมู กุ้งแห้ง มะพร้าวคั่ว และน้ำยำ คลุกให้เข้ากัน ชิมตามชอบใจ จากนั้นให้ใส่กระเทียมเจียว และถั่วลิสงป่น คลุกเคล้าให้เข้ากัน

เมนูยำผลไม้รวม
เป็นเมนูเสริม เพื่อเป็นตัวเลือกให้ลูกค้าที่ไม่ชอบยำมะม่วง วางขายคู่กันได้

ส่วนผสม
มะม่วงสับ ส้มโอ แครอทสับ ผักกาดหอม ผักชีฝรั่ง กะหล่ำปลี
สีม่วง หัวหอมแขก ตะไคร้ซอย พริกขี้หนู ปลากรอบ ถั่วลิสงคั่ว. เม็ดมะม่วง
หีมพานต์อบหรือทอด มะนาวผ่าซีก

สูตรน้ำยำ
ใช้น้ำมะขามเปียก. น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำผึ้ง และน้ำปลา

วิธีทำ
1.นำผัก ผลไม้มาเตรียมใส่อ่างผสมเตรียมรอไว้ โดยมีมะม่วงสับ แครอทสับ ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ ๆ เตรียมไว้ ส้มโอแกะเป็นกลีบ มะนาวผ่าซีก กะหล่ำปลีสีม่วงหั่นฝอย ตะไคร้หั่นฝอยพริกขี้หนูหั่น และหัวหอมหั่นเตรียมไว้ ผักกาดหอมหั่น
2.ทำน้ำยำโดยการนำส่วษผสมต่างๆ เช่น น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ เกลือป่น น้ำปลา และน้ำผึ้ง ใส่หม้อตั้งไฟ ด้วยไฟกลาง ใช้ทัพพีคนให้ส่วนผสมเข้าอัน และน้ำตาลละลายดี ใช้เวลาเคี่ยวประมาณ 1 ชั่วโมง พอน้ำยำข้นดีแล้วก็ยกลงตั้งไว้ให้เย็น
3.การยำ โดยนำผัก-ผลไม้ที่เตรียมไว้มารวมกัน และเติมน้ำยำลงไปในอ่างผสมแล้วคลุกเคล้าให้เข้ากัน

**** อาจจะทำการยำสดๆตอนลูกค้าสั่งเดี๋ยวนั้นเลย หรือยำเตรียมไว้แล้วแต่ความสะดวก


การลงทุน
ไม่เกิน 1o,ooo บาท (รวมอุปกรณ์)
ราคาขาย : ขายชุดละ 25-30 บาท
กำไร : 35-40 %

ทำเลการขาย
สามารถขายได้ดีในย่านชุมชน และแหล่งที่คนพลุกพล่าน เช่น ใกล้สถานที่ทำงาน (ขายหลังเลิก ป้ายรถประจำทาง ตลาดนัด ใกล้สถานศึกษา สถานที่ราชการ ตลาดนัดเปิดท้าย ตลาดสด ฯลฯ

**ควรเน้นเรื่องการบริการที่ดี มีคุณภาพ ใส่ใจเรื่องความสะอาด เพื่อสร้างความประทับใจ และความเชื่อถือให้กับลูกค้า

9/09/2553

ขายเฉาก๊วยตามตลาดนัด

เฉาก๊วย
เฉาก๊วยเป็นพืชล้มลุก ประเภทพืชคลุมดิน ในตระกลเดียวกับมินต์ คล้ายใบสะระแหน่ แต่ใบใหญ่กว่า และเรียวแหลม เรียกว่า "หญ้าเฉาก๊วย" เฉาก๊วยเป็นที่รจัิกกันดีในฐานะเป็นทั้งอาหารหวาน และเครื่องดื่มเพื่อสุขภาพ มีสรรพคุณแก้ร้อนใน กระหายน้ำ
หากท่านใดอยากลองทำเฉาก๊วย เพื่อขายของตลาดนัดเปิดท้าย ลองมาดูวิธีทำเฉาก๊วยกันดีกว่า

ส่วนผสมในการทำเฉาก๊วย
1. หญ้าเฉาก๊วยแห้ง 6.5 กก.
2. น้ำสะอาด 20 ลีตร
3. แป้งมันสำปะหลัง และแป้งท้าวยายม่อม หรือแป้งข้าวโพดประมาณ 4 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมน้ำเชื่อม
1. น้ำตาลแบบไม่ฟอกขาว 24 กก.
2 น้ำตาลโอทึ้ง 1 /2 กก.
3. ใบเตย 1/2 กก.
4 น้ำเปล่า
5 น้ำผึ้ง


เฉาก๊วย

วิธีทำเฉาก๊วย
1. นำหญ้าเฉาก๊วยแห้ง มาล้าง แล้วนำไปใส่หม้อเติมน้ำสะอาด 1หม้อใหญ่
2. นำไปต้ม เมื่อน้ำเดือดแล้ว เบาไฟลงเหลือไฟอ่อนคนไปเรื่อย ๆ ใช้เวลาประมาณ 4-5 ชัวโมง จะได้น้ำเฉาก๊วย หรือใช้เวลามากกว่านั้น ทั้งนี้แล้วแต่เทคนิคของผู้ขายแต่ละราย
3. นำลงจากเตาไฟ รอให้เย็น แล้วกรองเอาเศษใบหญ้า และกากอื่นๆ ออกให้หมด โดยใช้ผ้าขาวบางรองซ้อนกัน 2-3 ชั้น โดยวางบน
เทน้ำเฉาววยอรองผ่านถ้าลงไป ต้องกรอง 3 ครั้ง แต่ละครั้งพยายามคั้นกากให้ได้น้ำเฉาก๊วยออกมามาก ๆ เพื่อจะได้เนื้อของเฉากวยที่มีความดำและเหนียวข้นมากๆ
4. เมื่อกรองกากหมด 3 ครั้งแล้ว เติมแป้งมันสำปะหลัง หรือแป้งข้าวโพด เพื่อให้เฉากวยจับกันเป็นก้อน
5. ทิ้งไว้จนเย็น เฉาก๊วยจะมีลักษณะเป็นวุ้น

การทำน้ำเชื่อมเฉาก๊วย
1.ต้มน้ำสะอาดต้มจนเดือดใส่น้ำตาลโอทึ้งลงไป คนให้น้ำตาลโอทื้งละลาย
ต้มจนเดือด ใส่น้ำตาลทรายแดงตามลงไป คนให้ละลาย นำใบเตยที่ล้างสะอาดและหั่นเตรียมไว้ใส่ลงไป ต้มจนเดือดและมี
กลิ่นหอม ปิดไฟ ยกลงแล้วใส่น้ำผื้งลงไปในขั้นตอนสุดท้าย รอให้น้ำเชี่อมไว้ให้เย็น แล้วกรองด้วยผ้าขาวบาง ก่อนนำไปใส่โหลแก้วเตรียมขายคู่กับเฉาก๊วย

***แหล่งซื้อเฉาก๊วย
หญ้าเฉาก๊วย มีขายที่ตลาดเยาวราช และตลาดมหานาค


**สามารถเพิ่มรายได้ โดยขายแบบเฉาก๊วยทรงเครื่อง มี แปะกวย ถั่วแดง ลูกชิด พุทราเชื่อม รากบัว และผลไม้เชื่อมอื่นๆ เป็นเครื่องประกอบ
สรรพคุณของเฉาก๊วย
เฉาก๊วยมีรสเป้นยาเย้น ดับร้อนในแก้กระหายน้ำ อร่อยชื่นใจ ลดความดัน บำรุงเลือด ลดไข้ ระบบขับถ่ายดี
ขับปัสสาวะ แก้อ่อนเพลีย ลดความดันในร่างกาย

การตั้งราคาขาย
-แบบถุง 10 บาท
-แบบถ้วย 15-20 บาท

กำไรประมาณ 50% ของยอดขาย อาจจะทำแบบถ้วยซีลฝาให้มิดชิด แล้วนำไปฝากขายตามร้านค้าปลีก หรือตู้แช่ต่างๆ แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงความสะอาดในทุกขั้นตอนการผลิต

8/17/2553

ขนมปังสังขยา



ขนมปังสังขยา

ขนมปังสังขยา
อาหารว่างที่กินแล้วอิ่มสบายท้อง ขนมปังสังขยา ก็เป็นอาหารอีก
เมนูที่หลายๆคนเลือกวันนี้จึงอยากเสนอแนวคิดสำหรับการประกอบอาชีพเสริม หรืออาจจะเปิดเป้นร้านแบบครบวงจร ที่ขายทั้งขนมปังสังขยา พร้อมกับเครื่องดื่มนมสดสารพัดเมนู ไม่ว่าจะเป็น นมปั่น นมตุ๋น กาแฟนมสด และเครื่องดื่มนมสดต่างๆ ธุรกิจประเภทนี้เป็นธุรกิจที่ใช้เงินลงทุนไม่มากนัก ธุรกิจนี้ทำได้ง่ายไม่ต้องใช้แรงคนมาก เพียงแค่คนเดียวก็สามารถทำได้ หรือคนที่มีงานประจำก็สามารถทำได้ไม่ยุ่งยากโดยใช้เวลาช่วงเย็นเปิดขายถึง 4-5 ทุ่มก็ปิด สามารถมีเงินเสริมจากเงินเดือนประจำได้สบายเลย

อุปกรณ์ในการเปิดร้านก็ไม่มาก มีเคาน์เตอร์อะลูมิเนียม เตาแก๊ส ตู้กระจกสำหรับใส่ขนมปัง
หมอต้มนมและนึ่งสังขยา กาต้มน้ำร้อน กระป๋องนึ่งขนมปัง กรวยเทขนมปัง
กรวยเทนม ทัพพี ผ้าขาวบาง จาน ถ้วย แก้ว ถุงพลาสติก แก้วและหลอด

ขั้นตอนในการทำสังขยาทาขนมปัง กลิ่นใบเตย

ส่วนผสม
มะพร้าวขูดขาว 1/2 กิโลกรัม
นมสดจืด 1/2 ถ้วยตวง
น้ำตาลทราย 1/2 ถ้วยตวง
ไข่ไก่ 3 ฟอง
เกลือ 1 /3 ช้อนชา
ใบเตยสด 3 ใบ
แป้งสาลี 3 ช้อนโต๊ะ
แป้งมัน 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ
1. นำมะพร้าวมาคั้นกับน้ำอุ่นๆ ให้ได้น้ำกะทิ 3 ถ้วยตวง และนำใบเตยสดตำหรือปั่นให้ละเอียดแล้วมาคั้นเอาแต่น้ำ กรองกากใบเตยออก ให้ได้น้ำใบเตย 5 ช้อนโต๊ะ
2. นำนมสดจีดใส่หม้อ ใส่ไข่ เอาเฉพาะไข่แดง คนให้เข้ากันใส่น้ำตาล เกลือ น้ำกะทิ คนให้เข้ากัน แล้วจึงใส่น้ำใบเตย คนให้ทั่วอีกครั้ง
3. นำแป้งสาลี และแป้งมันมาละลายน้ำเล็กน้อย ค่อยๆ เทใส่ผสมลงในหม้อ คนให้เข้ากันทั้งหมด นำหม้อขึ้นตั้งไฟอ่อนๆ คนไปเรี่อยๆจนแป้งขึ้นเงาและสุกทั่วกัน จึงยกลง

ขนมปังสังขยา
การนึ่งขนมปัง
นำขนมปังที่ใหม่ เนื้อนุ่ม และมีกลิ่นหอมมาหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมพอดีคำ แล้วนำไปนึ่งให้อุ่น เวลาลูกค้าสั่งการเทใส่จาน หรือใส่ถุงให้ลูกค้าพร้อมสังขยาได้เลย

วิธีทำนมสด
การทำนมสดนั้นให้เลือกใช้นมโสดใหม่ วันต่อวันนมจะหอมมันอร่อย
1. นำนมโคสดแท้มานึ่ง ผสมกับน้ำตาลทรายขาวในอัตราส่วนนมสด 2-3 ลิตร/น้ำตาลทราย 1 ถ้วยตวง คนให้ละลายเข้ากัน
2. เมื่อลูกค้าสั่งนมสดร้อน ให้น้ำนมสดที่ผสมแล้วใน ข้อ 2. ไปอุ่นให้ร้อนเล็กน้อย หากลูกค้าสั่งนมสดเย็น ก็ใส่กับน้ำแข็งเสิร์ฟใส่แก้วหรือถุงให้ลูกค้า

เงินลงทุน
1 การลงทุนเบื้องต้น : ประมาณ 8,000 บาทขึ้นไป รวมอุปกรณ์ต่าง เช่น เตาแก๊ส+ถังแก๊ส ประมาณ 3,500 บาท ตู้กระจกราคาประมาณ 3,000 บาท
2. กำไรประมาณ 40 % ของยอดขายทั้งหมด

ทำเลการขาย
ทะเลในการจัดจำหน่ายตลาดโต้รุ่ง ย่านชุมชน ใกล้แหล่งสถานศึกษา หรือเปิดขายข้างฟุตบาท คนสัญจรผ่านไปมา นมสดและสังขยา เหมาะทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะกลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษา ส่วนนมสดอุ่นๆ ลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่จะชอบสั่งทานกัน

เทคนิคการเลีอกและหั่นขนมปัง
ขนมปังที่เราจะนำมาใช้นั้นต้องเป็นขนมปังที่เนื้อค่อนข้างแน่น เหนียวและการหั่นขนมปัง ควรเลือกใช้ขนมปังหนาทุก เพราะถ้าใช้ขนมปังบางเกินไป เวลานึ่งหรือปิ้งจะไม่นุ่มเท่าที่ควร

** ข้อควรระวัง
ต้องสั่งซื้อนมสด มาจำหน่ายเฉพาะที่ต้องการใช้ในแต่ละวัน เพื่อความใหม่สดทุกวัน รสชาติจะได้หอมมันอร่อย และห้ามเก็บนมที่เหลือค้างคืนมาขายให้ลูกค้า เพราะจะทำให้ท้องเสียได้ ต้องคำนวณปริมาณการใช้ให้พอดีขายในแต่ละวัน นี่เป็นเทคนิคในการทำขนมปังสังขยานมสด ขอให้กิจการรุ่งเรื่องค้าขายมีกำไร

8/11/2553

ขายเต้าหู้นมสด

รูปเต้าหู้นมสด
ขายเต้าหู้นมสด
หลายคนมองหาอาชีพเสริมเพื่อสร้างรายได้ เต้าหู้นมสดก็อาจจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ของอาหารแนวใหม่ จากกระแสนิยมการทานอาหารประเภทนม โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้ใหญ่ที่จะชอบทานเป็นอาหารเสริม เพื่อเพิ่มแคลเซียมอีกทางหนึ่ง ชื่อว่าเข้าหู้นมสด เพราะว่าเนื้อนิ่มคล้ายเต้ าหู้ไข่ที่มีสีเหลืองๆ ที่เรานำมาใส่ในแกงจืด

เต้าหู้นมสดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ ใช้ต้นทุนในการทำน้อย ขั้นตอนการทำก็ไม่ได้ยุ่งยาก เหมาะจะทำเป็นอาชีพเสริมในยามว่าง

อุปกรณ์ในการทำเต้าหู้นมสด
หม้อ,ไม้พาย, ขวดโหลใส่นม ขวด อาจจะต้องมีหน้าร้านขายเองหรือใส่ถังวางแช่เย็นขาย

ส่วนผสมของเต้าหู้นมสด
1. นมสดรสจืด รลหวาน หรือพร่องมันเนย ใช้ปริมาณ 1 ลิตร
2. น้ำตาลทราย 2-3 ช้อนโต๊ะ (ถ้าใช้นมรสหวานไม่ต้องใส่น้ำตาลเพิ่มก็ได้)
3. ผงวุ้น 1/2 ช้อนชา
4. เจลาตินผง 1/3 ช้อนชา
5. นมข้นจืด 5 ช้อนโต๊ะ
6. ใบเตย 4-5 ใบ (อาจจะใช้ กลิ่นมะลิ/ใบเตย/นมแมว 2-3 หยดแทนก็ได้ )
7. เม็ดแมงลัก 1ช้อนโต๊ะ ต่อน้ำ 1 แก้ว

วีธีทำเต้าหู้นมสด
1. ตวงนมสด ประมาณ 1 + 2/3 ถ้วย ลงในหม้อ
2. ใส่น้ำตาลทรายลงไป 1 /2 ช้อนโต๊ะ
3. ใส่ผงวุ้นลงไป สามารถโรยลงไปได้เลย จากนั้นฉีกใบเตยใส่ลงไปสัก 2-3 ใบ เพื่อเพิ่มความหอม
4. นำส่วนผสมที่ได้ขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟกลางๆ ต้มไปเรื่อยๆ
5. พอนมเดือดมีฟองขึ้น ให้ใส่เจลาตินลงไป (เจลาตินต้องผสมน้ำอุ่นแล้วคนให้ละลายก่อน ผสมประมาณ 1ช้อนโต๊ะ) คนให้เข้ากัน แล้วปิดไฟ
6. กรองนมสดด้วยกระชอน หรือใช้ผ้าขาวบาง เพื่อเอาเศษใบเตยออก
7. กรอกใส่ขวด ดูจะได้ประมาณ 4 ขวด ขนาด 300 ml.
8. ทำแมงลักโดย นำเม็ดแมงลัก 1 ช้อนโตะ ใส่น้ำสะอาดลงไปประมาณ 1 แก้ว รอประมาณ 2-3 นาที รอให้เม็ดแมงลักพองตัว
9. นำแมงลอกรอกใส่ขวด และนำไปแช่ตู้เย็น

ขั้นตอนการทำส่วนของนม
1. นำนมสดที่เหลือเทลงในหม้อ จากนั้นใส่ใบเตย 2-3 ใบ เพื่อให้นมมีกลิ่นหอม
2. เทนมข้นจืดลงไป ตามด้วยน้ำตาลทรายประมาณ 2 ช้อนโต๊ะ
3. นำนมสดขึ้นตั้งไฟ ใช้ไฟอ่อนๆ
4. เมื่อนมสดเริ่มเดือด ก็ให้ปิดไฟ
5. น้ำนมสดที่ได้มากรองเอาใบเตยและฟองนมออก
6. ต้องหมั่นคนนมขณะนมยังร้อนอยู่ ถ้าทิ้งไว้เฉย ๆ หน้านมจะจับกันเป็นฝ้าได้
7. รอจนนมเย็น จากนั้นนำไปกรอกใส่ขวดที่มีเนื้อเต้าหู้และแมงลัก
8. ปิดฝาขวด นำไปแช่ตู้เย็นรอขาย

เงินลงทุน
1 การลงทุนเบื้องต้น : ไม่เกิน 5,000 บาท
2.ต้นทุน : ราคาทุนต่อขวด 7-8 บาท
3.รายได้ : สามารถขายปลีกได้อยู่ที่ขวดละ 15 บาท และสามารถขายส่งได้อยู่ที่ขวดละ 12 บาท
4. กำไร : 50 %ของยอดขายทั้งหมด

แนวโน้ม ตลาด
ตลาดของสินค้าชนิดนี้น่าจะยังไปได้อีกไกล เนื่องมาจากกระแสรัก
สุขภาพที่มาแรง ด้วยวัตถุดิบ และขั้นตอนในการทำก็หาง่าย ความ
ต้องการในตลาดก็มีมาก เพราะสามารถเป็นเครื่องดื่มแก้กระหายได้ และมี
ประโยชน์ต่อร่างกาย

ช่องทางและทะเลในการจัดจำหน่าย
ส่วนมากจะฝากขาย และวางขายอยู่ตามร้านโชว์ห่วยเล็กๆ ทั่วไป
สำหรับบุคคลที่ทำงานประจำสามารถนำไปขายที่ทำงาน และสามารถนำไปขายเองแบบมี
หน้าร้าน โดยขายตามตลาดนัดทั่วไปในช่วงเย็นวันจันทร์-ศุกร์ และวันเสาร์-
อาทิตย์

8/05/2553

ขายเสื้อผ้าหมา

เสื้อผ้าหมา

ขายเสื้อผ้าหมา

เสื้อผ้าหมาเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แต่คนที่รักสุนัขแล้วพวกเขาก้พร้อมที่จะจ่ายให้เจ้าตูบสุดที่รัก เพราะคนที่รักหมาจริง ๆ เขาจะคิดว่านี่คือสมาชิกในครอบครัว
นี่คือลูกที่ต้องดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดีในปัจจุบันมีสินค้าหลากหลายทีผลิตอออมาเพื่อภอบลนองกล่มคนรักสัตว์ เพราะคนนิยมเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อน ดังนั้นจึงให้ความสนใจดูแลสัตว์
เลี้ยงของตนเองมากขึ้น สินค้าสารพัดสำหรับสัตว์เลี้ยงจึงกลายเป็นสินค้าทำเงินรายได้ตี โดยเฉพาะเสื้อผ้าของสุนัขซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่
สำหรับท่านที่สนใจทำอาชีพเสริมนี้ ต้องมีฝีมือในภาพตัดเย็บอยู่บ้าง หรือ เคยทำธุรกิจตัดเย็บเสี้อผ้ามาก่อน ถ้าไม่เคยตัดเย็บเสื้อผ้ามาเลยก็ควรจะลองไปเรียนคอร์สตัดเย็บเสื้อผ้าเบื้องต้นก่อน

วัสดุและอุปกรณ์
จักรเย็บผ้า กรรไกรตัดผ้า กระดาษสร้างแบบ สายวัด ลูกกลิ้ง กระคาษคาร์บอน. หมอนเข็ม เข็มหมุด เข็มเย็บผ้า. ด้าย เย็บผ้า ที่ลนเข็ม. กระดุม กล่องใส่อุปกรณ์ ผ้าสำหรับเย็บชุด. ดินสอ ชอล์กสำหรับเขียนผ้า ตีนตุ๊กแก ไม้บรรทัด และปากก าหรือดินสอ

ขั้นตอนการตัดเย็บ
1. เลือกผ้าที่จะใช้มาตัดชุดน้องหมา ต้องเลือกที่เหมาะกับแต่ละสายพันธุ์ และใส่แล้วสบาย
2. ถ้าตัดเสื้อจะต้องวัดตัวน้องหมา 4 จุด ได้แก่ บริเวณรอบคอ รอบอก ความยาวกลางหลัง และความยาวให้คอถึงใต้ท้อง
3. ถ้าจะตัดกางเกง หรือ กระโปรงจะต้องวัด 2 จุด ได้แก่่ รอบเอว และความยาวจากเอวถึงขา เว้นช่องเว้าอวัยวะเพศ
3. เมื่อได้ไซส์เสื้อผ้าสุนัข ตามขนาดของสุนัขตามความต้องการแล้ว โดยทั่วไปจะได้ 8 ไซส์คือ 0-8 ก็จะวาด pattern ลงบนกระดาษแข็ง ตามสัดส่วนของน้องหมาที่วัดได้
4. เริ่มตัดตาม pattern ที่เป็นกระดาษแข็งออกเป็นชิ้นๆ แล้วนำไปทาบกับผ้าที่จะตัด
5. ต่อจากนั้นดัดออกมาเป็นชิ้นผ้าที่จะใช้งานได้เลย
6. จากนั้นก็มาถึงขั้นถอนการเย็บเสื้อ กางเกง และกระโปรง ซึ่งต้องเย็บให้เป็นรูปร่าง ทั้งการต่อไหล่ เย็บพับคอ พับชาย สาบติด กระดุม ฯลฯ

การออกแบบสามารถใช้ไอเดียออกแบบจากแฟชั่นเสื้อผ้าของคนที่มีอยู่ในปัจจุบัน หรือจากนิตยสารเสื้อผ้า หรือสามารถดูแบบตัดเสี้อจากหนังสือตัด
เสื้อสำหรับสนัขจากต่างประเทศที่มีความทันสมัย โดยสามารถหาซื้อทางอินเทอร์เน็ต และยังสามารถดูแบบจากในอินเทอร์เน็ตได้อีกด้วย

สำหรับผู้ที่สนใจทำอาชีพนี้จริงๆ แต่ไม่มีพื้นการตัดเย็บเสื้อผ้าหมา สามารถไปเรียนเพิ่มเติมได้ ซึ่งมีคอร์สอบรมการออกแบบตัดเย็บเสี้อผ้าหมาได้ที่สถาบันเอชานซ์ จะมีการจัดอบรมหัวข้อการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าหมา เรียนรู้หลักการออกแบบ
เสื้อผ้าหมา การเลือกผ้าและวัสดุอุปกรณ์ตัดเยบ การวัดขนาดและรูปร่างสุนัข การสร้าง pattern การขึ้นหุ่น การขยายแบบ การตกแตjงเสื้อผ้าหมา การตัดเย็บเสื้อผ้าหมาด้วยมือ การพัฒนาแบบ เป็นต้น
เสื้อผ้าหมาที่จำหน่ายกันส่วนใหญ่เป็นเสื้อผ้าสำหรับหมาพันธุ์เล็กขนาดน้ำหนักตัวไม่เกิน 7-8 กิโลกรัม เช่น ชีวิวาวา ชิสุ พูเดิ้ล และบลูเทอร์เรีย

สำหรับผู้ที่สนใจอบรมหัวข้อการออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าสนัข
บริษัท เอชานซ์ 3/2 ซ.ลาดพร้าว 69 ถ.ลาดพร้าว ต วังทองหลาง ข.วังทองหลาง
กรุงเทพ 10310 โทรศัพท์ : 0-2933-4597-8, 08-6987-0042

การลงทุนเบื้องต้น : ไม่เกิน 10,000 บาท ขึ้นอยู่กับราคาจักรเย็บผ้า
. เงินทุนหมุนเวียน : ใช้ซื้อวัตถุดิบประมาณ 3.000 บาท คิดจากการเย็บเสื้อผ้าได้ 1oo ตัว
. ต้นทุน/ชิ้น ; เสื้อชิ้นละ 15-50 บาท กางเกงและกระโปรงชิ้นละ 25-50 บาท
. รายได้ เสื้อขายส่งชิ้นละ 35-100 บาท กางเกงและกระโปรงขายส่งชิ้นละ 50-100 บาท
. กำไร :รายได้ที่เป็นกำไรหลังหักต้นท6น จะอยู่ที่ประมาณ 50 % จากของยอดขายทั้งหมด

แนวโน้มการตลาด
สินค้ากำลังได้รับความนียม สินค้ากลุ่มนี้ สามารถขายได้เรื่อย ๆ เพราะว่าคนกล่มที่รักหมา จะมองสัตว์เลี้ยงเป็นเหมือนเพื่อน หรือคนในครอบครัว
ทำให้พยายามเลือกสิ่งที่ดีที่สุด แต่อย่างไรกีตาม ยังคงมีค่าใช้จ่ายสูงในการทำตลาดขายอย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้สินค้าติดตลาด และที่สำคัญตอนนี้
ตลาดคนเลี้ยงสัตว์โตขึ้นมากช่องทางและทำเลในการจัดจำหน่าย
สามารถฝากขาย หรือขายส่งกับร้าน petshop ทั่วไป แหล่งขายสุนัข ร้านขายของสุนัขตามตลาดนัด หรือจัดทำเว็บไซต์ และนำเสนอสินค้าขายปลีกทางอินเทอร์เน็ต

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย
คนเลี้ยงสัตว์ที่มีรายได้ปานกลาง-สูง พร้อมทงั้ตอ้งการเพิม่ความ
สวยงาม และให้ความอบอุ่นแก่หมาของตัวเอง การออกแบบตัดเย็บเสื้อผ้าหมาต้องออกแบบให้ถูกใจเจ้าของหมารวมทั้งต้นทุนผ้า และวัสดุที่ใช้ในการตัดเย็บ ต้องเหมาะสมกับราคาขาย ก่อนทำควรมีแหล่งกระจายสินค้าด้วย

ข้อมูลอ้างอิงจาก หนังสือ 50 ธุรกิจเสริมหลังเลิกงาน

7/03/2553

ขายหมูปิ้ง


ขายหมูปิ้ง

สำหรับท่านที่กำลังมองหาไอเดียในการค้าขายในตลาดนัดเปิดท้ายในยุคที่อะไรก็เร่งรีน อาหารเช้า หรือเย็น ก็ต้องเป้นอาหารที่ ง่ายๆ คงจะหนีไม่พ้นอาหารยอดฮิตอย่าง
ข้าวเหนียวหมูปิ้ง เพราะเป็นอาหารที่กินง่าย อิ่มท้อง อร่อย ขายได้ทุกที่ ขั้นตอนการทำก้ไม่ยุ่งยาก ลูกค้ามีทุกเพศทุกวัยโดยเฉพาะเด็ก และคนวัยทำงานที่ไม่มีเวลาเตรียมอาหารเช้า
ทำขายได้ในช่วงเช้าก่อนไปทำงาน ตั้งแต่ 5.30ี 7.30 น. และตอนเย็นหลังเลิกงาน 1 7.30-9.00 น.

วัตถุดิบและเครื่องปรุงหมูปิ้ง

เนื้อหมู 1 กก.
กระเทียม 5-6 กลีบ
พริกไทยเม็ด 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนใต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปี๊บ 3 ช้อนโต๊ะ
หัวกะทิ 1/3 ถ้วยตวง
ข้าวเหนียว

อุปกรณ์การปิ้งหมู
อาจจะใช้เตาถ่านหรือ เตาปี้งไร้ควัน แบบใช้แก๊ส แต่เตาถ่านจะทำให้หมูได้รสชาติที่ดีกว่า ถาด กล่องพลาสติกสำหรับใส่หมูที่เสียบไม้เเล้ว


วิธีการทำหมูปิ้ง
1. ล้างทำความสะอาดเนื้อหมูให้สะอาด ซับน้ำให้แห้งแล้วหั่นหมูเป็นชิ้นขนาดความกว้างประมาณ 2 นิ้ว หนาประมาณ 3 มิลลิเมตร
2. แกะเปลือกกระเทียม แล้วนำไปโขลกให้ละเอียดพร้อมพริกไทยเม็ด
3. นำกระเทียมพริกไทยที่โขลกไส่ลงไปในเนื้อหมูที่หั่นไว้ ปรุงรสต่างๆด้วย ซอสปรุงรส ซีอิ๊วขาว กะทิ 3 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าเครี่องปรุงต่างๆให้เข้ากันแล้วหมักไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ข้ามคืนก็ได้โดยแช่ในช่องพรีซ เวลาจะใช้ ให้เอาออกมาละลายน้ำแข็งโดยปล่อยให้น้ำแข็งละลายไปเอง
4. เมื่อหมักได้ที่แล้ว นำเนื้อหมูที่ได้มาเสียบไม้ ก่อนเสียบไม้ให้นำไม้ใปแช่น้ำก่อนประมาณ 30 นาที เพื่อช่วยไม่ให้ไม้ไหม้
5. เริ่มปิ้ง โดยวางหมูทีเสียบไม้เรียบร้อยแล้วลงบนตะแกรงนำหัวกะทิที่เหลือมาทาให้ทั่วหมูปิ้งทุกไม้

***การปิ้งหมูด้วยเตาถ่าน ต้องใช้ขี้เถ้าปิดหน้าถ่าน เพื่อป้องกันไฟแรงเกินไปหมูจะไหม้ และช่วยให้หมูสุกอร่อยได้ดี ควรมีกรรไกรตัดแต่งหมูส่วนที่ไหม้ออกไปบ้าง ทำให้น่ากิน

การนึ่งข้าวเหนียว
1 น่ำข้าวเหนียวไปแช่น้ำไว้สักประมาณ 3 ชั่วโมง หรือทิ้งไว้ข้าม คืน
2. ตั้งหม้อนึ่ง ใช้ไฟปานกลางใส่น้ำลงไป เมื่อน้ำเดือดให้สะเด็ดน้ำนำข้าวเหนียวขึ้นมา ห่อผ้าขาวบางแล้วนำไปนึ่ง
3. ใช้เวลานึ่งไปประมาณ 30-40 นาที หรือจนข้าวเหนียวสุก โดยสังเกตว่าข้าวเหนียวจะใสขึ้น ทำการกลับด้าน แล้วนึ่งต่อสักพัก
4. เทข้าวเหนียว ออกจากหม้อนึ่งทำการ ส่ายข้าว หรือทำให้ข้าวนิ่ม โดยใช้ไม้พายและมือนวดข้าว อาจจะพรมน้ำเล็กน้อยก็ได้

ต้นทุนหมูปิ้ง
การลงทุนเบื้องต้นไม่เกิน 10,000 บาท
. ต้นทุน/ชิ้น : ไม้ละประมาณ 2.50 บาท
. รายได้ : ขายไม้ละประมาณ 5 บาท
. กำไร : รายได้ที่เป็นกำไรหลังหักต้นทุนจะอยู่ที่ประมาณ 50% ของยอดขายทั้งหมด


** เทคนิคเกี่ยวกับการทำหมูปิ้ง
เนื้อหมูที่ใช้ควรเป็นเนื้อสันส่วนขาหลัง ติดมันนิดหน่อย ถ้าติดมันมากเกินไป ให้แล่เอามันออกทิงไปบ้าง เวลาแล่เนื้อหมูต้องพยายามแล่ให้ได้ขนาดสม่ำเสมอเพื่อความสวยงาม เวลาเสียบก็ต้องเสียบเนื้อหมูตามขวาง เนื้อหมูจะได้ดูหนา เวลากินจะไม่เหนียว หมักหมูทิ้้งสัก 2-3 วัน ถึงจะดีเวลาจะนำมาปิ้งก็เอาออกมาจากช่องฟรีซ แล้วให้น้ำแข็งละลายก่อน
เครื่องปรุงรสจะเข้าเนื้อและนุ่มกว่า ถ้าหมักแล้วปิ้งเลยจะไม่อร่อย เวลาปิ้งทำให้หมูไม่สวย เนื้อหมูจะติดตะแกรงด้วย
การหมักหมูข้ามคืนจะยิ่งดีเพื่อให้ซอสปรุงรส และส่วนผสมต่างๆเข้าเนื้อ อีกทั้งยังทำให้หมูมีเนื้อน่มเพิ่มขึ้นด้วย วิธีการคือ คลุกเคล้าหมูกับเครื่องปรุงแล้วนำมาเสียบไม้ จากนั้นนำไปแช่ในถังน้ำแข็ง หรือตู้เย็นไว้ข้ามคืน เมื่อจะขายก็นำอออมาปิ้งได้ทันที

*** หมู 1 กก. เสียบไม้ได้ประมาณ 60 ไม้
60x 5 = 300 บาท = กำไร 150 บาท/ กก.
อาจจะมีแจ่ว เพื่อเพิ่มรสชาติหมูปิ้งได้อีก หรือหาไส้กรอก และแหนมมาย่างเพื่อให้ลูกค้าเลือกกินได้อีกทาง