3/31/2554

ขายผลไม้เฉาะ

เมืองไทยมีผลไม้ที่ออกให้เรากินได้ตลอดปี อาชีพขายผลไม้เฉาะ จึงน่าสนใจเพราะถึงแม้จะมีผลไม้มากมาย แต่คนกินก็ยังต้องวการความสะดวก คือ ไม่อยากเสียเวลไปล้าง ไปหั่น เฉาะผลไม้
กินเอง ซื้อเขากินสะดวกกว่า เราจึงเห็นรถเข็นขายผลไม้ ตามท้องถนนทั่วๆไป รถเข้นจะออกขายตั้งแต่เช้า บ่ายๆตู่จากที่เคยอัดแน่นด้วยผลไม้ก็ว่างเปล่า เพราะขายดิบขายดี ยิ่งช่วงพักเที่ยงกลางวันจะเห้น
คนรุม ยืนรอคิว ซื้อกันมากมาย ถ้าไปขายตามแหล่ง ชุมชน ใกล้ออฟฟิศ สถานที่ราชการ โรงเรียน ตลาด ฯลฯ รับรองว่าขายดีแน่ๆ วันนี้จึงนำเสนอ อาชีพขายผลไม้ สำหรับคนที่อยากขายผลไม้ลองมาติดตามหาข้อมูลกันนะครับ

ข้อดีของการขายผลไม้
1.ผลไม้ขายได้ง่าย-กำไรดี
ทุกๆคนกินผลไม้กันในทุกๆวัน บางคนไม่ชอบกินของหวาน เพราะกลัวอ้วน การขายผลไม้ปอกเปลือก ตัดแบ่งขาย
แบบนี้ ได้กำไรเกือบเท่าตัวทีเดียว

2.ผลไม้ไม่ต้องเสียเวลาปรุง
ผลไม้แค่ล้างให้สะอาดปอกเปลือกก็กินได้ทันที บางชนิดไม่ต้องปอกเปลือกด้วยซ้ำ ไม่เหมือนอาหารชนิดอื่นๆที่ต้อง ปรุง หรือทำให้สุกก่อนกิน

3.คนนิยมกินผลไม้ทุกๆวัน
เพราะผลไม้มีประโยชน์ต่อร่างกาย ให้ แร่ธาตุ วิตามินที่จำเป็นต่อร่างกาย ผลไม้เป็นอาหาร 1 ชนิดในอาหารหลัก 5 หมู่ ที่คนต้องกินในแต่ล่ะวัน

4.ใช้ทุนเริ่มต้นไม่มาก
การขายผลไม้เฉาะนั้น ใช้ทุนเริ่มต้นไม่ต้องสูงมาก ซื้ออุปกรณ์จำเป้นไม่กี่อย่าง เช่น รถเข็น ตู้แช่ผลไม้ มีด เขียง ถุงพลาสติก ร่ม ครุถังใส่น้ำ เป็นต้น


สิงที่ควรจะรู้ ในการขายผลไม้ คือ
1.ต้องเข้าใจธรรมชาติของผลไม้ เราต้องรู้ว่าผลไม้บางอย่างซื้อเก็บไม่ได้ เช่น ฝรั่ง ชมพู่ องุ่น มันแกว เพราะซื้อเก็บมันจะไม่สด ไม่น่ากิน เราจะต้องซื้อผลไม้พวกนี้วันต่อวัน
แต่ผลไม้บางอย่างท่านซื้อเก็บได้ เช่น มะละกอ แตงโม สับปะรด มันแกว

-ผลไม้บางอย่าง ต้องจับเบามือและห่อหุ้มอย่างระมัดระวังไม่งั้นผลไม้จะช้ำเสียเน่าหมด เช่น ฝรั่ง ชมพู่ ละมุด มะละกอ แคนตาลูป ฯลฯ

-เราจะต้องเลือกผลไม้เป็น คือเลือกผลไม้ที่ สุก หรือแก่พร้อมกิน ทำให้ได้ผลไม้ที่กินอร่อย ถ้าเลือกไม่เป็น อาจจะจะต้องหาคนที่เขาเลือกเป็นสอนให้ ต้องอาศัยความชำนาญ และประสบการณ์ อันนี้ฝึกฝนกันได้

-การเลือกซื้อผลไม้ ไม่ควรเลือกซื้อจากผู้ขายเพียงเจ้าเดียว เราควรเลือกผลไม้ที่ดี ที่สุดจากผู้ขายหลายๆเจ้า และต้องทราบ แหล่งที่มีผู้ขายหลายเจ้า ด้วยว่ามีทีไหนบ้าง เช่น แถวตลาดมหานาค และตลาดที่มุมเมือง ตลาดไท ฯลฯ

-ต้องรู้ว่าผลไม้แต่ละชนิด และควรจะขยันไปเลือกซื้อก่อนผู้อื่นทุกวัน หากราคาที่ซื้อจะแพงหน่อย ก็อาจจะยอมซื้อเพื่อหวังขายคุณภาพ เพื่อให้ลูกค้าติดใจ


2.ต้องปอกผลไม้เป็น
คือต้องปอกผลไม้ได้เร็วตัดแบ่งเร็ว ปอกสวยตัดหั่นแบ่งผลไม้สวย ดูน่ากินขนาดเท่ากันไม่ช้ำ มีดคมไม่เฉือนเนื้อออก
เยอะเกินไป ไม่ตัดแบ่งผลไม้แล้วเหลือเศษชิ้นเล็กๆ มากเกินไป

3.ต้องรักความสะอาด
เนื่องจากผลไม้ต้องกินกันสดๆทันทีหลังเฉาะ เพราะฉะนั้น เรื่องความสะอาดจะต้องถือเป้นเรื่องสำคัญที่หนึ่ง หาก ลูกค้ากินเข้าไปแล้วเป็นอันตรายต่อ สุขภาพ
- การล้างผลไม้ ต้องล้างให้สะอาดแต่เบามือ อาจต้องล้างด้วยผ้านุ่มหรือสองน้ำผิวละเอียด อาจต้องล้าง 2 น้ำ ผลไม้ บางชนิดอาจต้องล้างด้วยด่างทับทิม หรือ เบคกิ้ง
โซดา เพื่อให้สะอาดปราศจากสารปนเปื้อนและแบคทีเรียที่จะทำให้ท้องเสีย นอกจากนี้ อุปกรณ์ต้องที่ต้องสัผสกับผลไม้โดยตรง เช่น มีด เขียง ตู้แช่ผลไม้ต้องทำความสะอาดให้ดีที่สุดในทุกๆวัน

- มือที่ใช้จับผลไม้ต้องสะอาด มีดที่ใช้ปอกผลไม้ต้องสะอาด ถัง กะลามัง ที่ใช้ และบรรจุภัณฑ์ที่จะใส่ผลไม้ ต้องสะอาด
ต้องสะอาด จัดวางบรรจุภัณฑ์ในตู้หรือในถังแช่ความเย็นทีสะอาดปราศจากแมลงวันและฝุ่น การหยิบจับเงินและทอนเงินให้จากลูกค้า จะหยิบได้แค่บรรจุภัณฑ์ผลไม้ ต้องไม่หยิบจับดัวยผลไม้ อาจจะสวมถุงมือ เพื่อป้องกัน การปนเปื้อน และต้องล้างมือ บ่อยครั้ง

4.การเก็บรักษา ให้สด
ควรมีตู้แช่ผลไม้ที่รองด้วยน้ำแข็งสะอาด มีฝาปิดมิดชิด เพื่อให้ผลไม้สด กรอบ เย็นฉ่ำ ชื่นใจ การจัดเรียงในตุ้ทำให้ดุน่ากิน ใครเห้นก้อยากซื้อ

5.การแปรรูปผลไม้
ต้องมีความรุ้เรื่องการแปรรูปผลไม้ เพราะบางครั้งอาจจะมีผลไม้เหลือขายในแต่ละวัน ก็นำมาแปรรูป เป็นผลไม้ ดอง กวน แช่อิ่ม ตากแห้ง ฯลฯ เพื่อขายให้ลูกค้าได้อีกทาง ดีกว่า ทิ้งไป เสียดายของเปล่าๆ


การแบ่งเฉาะผลไม้และตั้งราคาขาย
- สับปะรด ลูกโต เนื้อหวานฉ่ำ ลูกละ 15-30 บาท จะแบ่งขายได้ 6 ชิ้น ชิ้นละ 10 บาท ต้องปอกให้สวย
- แตงโม ต้องเลือกเนื้อแดง หวานกรอบ ซื้อมาลูกละ 35-40 บาท แบ่งขายได้ 8 ชิ้น ชิ้นละ 10 บาท จะแบ่งขายได้ 6 ชิ้น ชิ้นละ 10 บาท
- แคนตาลูปเนื้อเหลืองหวานและหอม ขายเป็นกิโล 25-30 บาท จะแบ่งขาย 2 ซีก ซีกละ 33 บาท
- ละมุดปอกเลือกและตัดแบ่งขาย ตั้งราคาขายที่ถุงละ 20 บาท กำไรเท่าตัว
- ฝรั่งแก่จัด สดกรอบหวาน อร่อย กิโลละ 20-30 บาท จะเฉาะใสถุงขายได้ 6 ถุง ถุงละ 10 บาท
- มะละกอแขกดำเนื้อแน่นหวานสีแดงส้ม ลูกละ 20-30 บาทจะแบ่งขายได้ 6 ชิ้น ชิ้นละ 10 บาท
- ชมพู่ องุ่น มันแกว ซื้อมาเป็นกิโล แบ่งขายถุงละ 10 บาท ได้กำไรเท่าตัว

*** ผลไม้จะมีช่วงราคาขึ้นลงตลอดทั้งปี ขึ้นอยู่กับช่วงที่ออก หรือฤดูกาลของผลไม้ เราต้องบริหารจัดการให้ดี และรู้แหล่งซื้อผลไม้ที่ดี เพื่อคัดคุณภาพผลไม้เกรดดี ราคาถูก
ก็จะทำให้ขายได้ราคาดี